การโฆษณาแบบแสดงผล คำแนะนำสำหรับการโฆษณาออนไลน์ทั่วทั้งเว็บไซต์

การโฆษณาแบบ Display เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับนักการตลาดในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย รูปแบบหนึ่งของการโฆษณาออนไลน์ที่ใช้ภาพ ข้อความ วิดีโอ หรือแอนิเมชัน เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม และกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการที่ต้องการ เช่น การคลิกเข้าชมเว็บไซต์ การติดตามแบรนด์ หรือการซื้อสินค้าโฆษณาที่ได้รับการออกแบบให้กลมกลืนกับเนื้อหาของเว็บไซต์

โฆษณาแบบ Display คือโฆษณาที่แสดงบนเว็บไซต์ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย แอป และพื้นที่ดิจิทัลอื่นๆ โดยทั่วไปโฆษณาเหล่านี้มาในรูปแบบแบนเนอร์ รูปภาพ วิดีโอ หรือสื่อโต้ตอบ และจะปรากฏบนเว็บไซต์ต่างๆ ตามความสนใจ ข้อมูลประชากร หรือพฤติกรรมการเรียกดูของผู้ใช้

การโฆษณาแบบแสดงผลคืออะไร?
การโฆษณาแบบแสดงผลเกี่ยวข้องกับการวางโฆษณาทางภาพบนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ บริการ หรือแบรนด์ โฆษณาเหล่านี้สามารถปรากฏในรูปแบบต่างๆ เช่น:

โฆษณาแบนเนอร์ : โฆษณากราฟิกสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่แสดงที่ด้านบน ด้านข้าง หรือด้านล่างของหน้าเว็บ
โฆษณาวิดีโอ : คลิปวิดีโอสั้น ๆ ที่แสดงก่อน ระหว่าง หรือหลังเนื้อหาบนเว็บไซต์แบ่งปันวิดีโอ
โฆษณาแบบป๊อปอัป : โฆษณาที่เปิดขึ้นในหน้าต่างหรือแท็บใหม่เมื่อผู้ใช้เยี่ยมชมไซต์
โฆษณาเนทีฟ : โฆษณาที่ได้รับการออกแบบให้กลมกลืนกับเนื้อหาของเว็บไซต์หรือแอป โดยปรากฏเหมือนเนื้อหาปกติมากกว่าโฆษณาแบบดั้งเดิม
การโฆษณาแบบแสดงผลทำงานอย่างไร?
การโฆษณาแบบแสดงผลทำงานผ่านระบบการประมูล โดยผู้โฆษณาจะเสนอราคาเพื่อซื้อพื้นที่โฆษณาบนเว็บไซต์ โดยมักจะใช้เครือข่ายเช่น Google Display Network (GDN) หรือแพลตฟอร์มด้านอุปสงค์ (DSP) อื่นๆ กระบวนการประมูลช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถกำหนดเป้าหมายผู้ชมเฉพาะกลุ่มตามความสนใจ ตำแหน่งที่ตั้ง และพฤติกรรมการเรียกดู

ผู้ลงโฆษณาจะตั้งค่าแคมเปญผ่านแพลตฟอร์ม เลือกกลุ่มเป้าหมาย และกำหนดงบประมาณ จากนั้นแพลตฟอร์มจะวางโฆษณาบนเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องที่ตรงตามเกณฑ์ โฆษณาสามารถติดตามประสิทธิภาพได้ เช่น จำนวนคลิก จำนวนการแสดงผล และการแปลง ทำให้ผู้ทำการตลาดมีข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญของตน

ประโยชน์ของการโฆษณาแบบแสดงผล
การรับรู้แบรนด์ : โฆษณาแบบแสดงผลนั้นยอดเยี่ยมสำหรับการเพิ่มการมองเห็นแบรนด์ ยิ่งโฆษณาของคุณปรากฏบนเว็บไซต์มากเท่าไร ผู้ชมของคุณก็จะยิ่งจำแบรนด์ของคุณได้มากขึ้นเท่านั้น

การเข้าถึงแบบมีเป้าหมาย : ด้วยตัวเลือกการกำหนดเป้าหมายอันซับซ้อน เช่น ข้อมูลประชากร ประวัติการเรียกดู และตำแหน่งที่ตั้ง โฆษณาแบบแสดงช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่เฉพาะเจาะจงได้

ความคุ้มต้นทุน : การโฆษณาแบบแสดงผลอาจเป็นตัวเลือกที่ประหยัดงบประมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวเลือกอย่างต้นทุนต่อการแสดงผลพันครั้ง (CPM) ที่ผู้โฆษณาจะจ่ายเฉพาะค่าการมองเห็นที่โฆษณาได้รับเท่านั้น

ความน่าดึงดูดทางสายตา : การใช้กราฟิก วิดีโอ และรูปแบบสื่ออื่นๆ ทำให้โฆษณาแบบแสดงมีส่วนร่วมมากกว่าโฆษณาแบบข้อความ

โอกาสในการกำหนดเป้าหมายใหม่ : โฆษณากำหนดเป้าหมายใหม่ช่วยให้ธุรกิจสามารถดึงดูดผู้ใช้ที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ของตนแต่ไม่ได้ทำการแปลงกลับมาอีกครั้ง ทำให้มีอัตราการแปลงเพิ่มขึ้น

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการโฆษณาแบบแสดงภาพ
ออกแบบโฆษณาที่ดึงดูดสายตา : ความสำเร็จของโฆษณาแบบแสดงผลขึ้นอยู่กับการออกแบบ ใช้รูปภาพที่สะดุดตา สีสันที่สดใส และปุ่มเรียกร้องให้ดำเนินการ (CTA) ที่ชัดเจนเพื่อดึงดูดความสนใจ

กำหนดเป้าหมายกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้อง : ยิ่งคุณกำหนดเป้าหมายได้แม่นยำมากเท่าไร โอกาสที่คุณจะเข้าถึงลูกค้าที่มีศักยภาพก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ใช้ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายเพื่อปรับแต่งแคมเปญของคุณตามข้อมูลประชากร พฤติกรรม และความสนใจ

คำนึงถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่ : ผู้ใช้จำนวนมากเข้าถึงเว็บไซต์ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ดังนั้นให้แน่ใจว่าโฆษณาแบบแสดงของคุณได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต

การทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพ : การทดสอบ A/B ช่วยให้คุณเปรียบเทียบโฆษณาเวอร์ชันต่างๆ เพื่อดูว่าเวอร์ชันใดมีประสิทธิภาพดีที่สุด การเพิ่มประสิทธิภาพเป็นประจำตามผลลัพธ์สามารถปรับปรุงผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้อย่างมีนัยสำคัญ

ใช้การกำหนดเป้าหมายซ้ำ : กำหนดเป้าหมายซ้ำผู้ใช้ที่แสดงความสนใจในแบรนด์ของคุณแต่ยังไม่ได้ซื้อสินค้า ซึ่งจะช่วยเตือนพวกเขาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ

การโฆษณาแบบแสดงผลยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญของการตลาดออนไลน์ ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดแสดงแบรนด์ของตนบนแพลตฟอร์มต่างๆ และเข้าถึงลูกค้าที่มีศักยภาพได้ การโฆษณาแบบแสดงผลสามารถช่วยให้บริษัทเพิ่มการรับรู้แบรนด์ ขับเคลื่อนการเข้าชม และเพิ่มการแปลงข้อมูลได้ โดยใช้เทคนิคการกำหนดเป้าหมาย ภาพที่ดึงดูดใจ และการปรับแต่งอย่างต่อเนื่อง