อัตราผลตอบแทนจากค่าโฆษณาเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญมากในการวัดประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาออนไลน์ ช่วยให้เราทราบว่าเงินที่ลงทุนไปกับการโฆษณาแต่ละบาทนั้น ได้ผลตอบแทนกลับมาเป็นยอดขายเท่าไหร่ ผลตอบแทนจากการใช้จ่ายโฆษณา ROAS ช่วยให้นักการตลาดประเมินได้ว่าตนสร้างรายได้เท่าใดจากเงินทุกดอลลาร์ที่ใช้ไปกับการโฆษณา
นับเป็นวิธีการที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังในการกำหนดประสิทธิภาพและความสำเร็จของแคมเปญดิจิทัล
ROAS คืออะไร?
ROAS คือตัวชี้วัดที่คำนวณรายได้ที่ได้รับจากเงินแต่ละดอลลาร์ที่ใช้จ่ายไปกับแคมเปญโฆษณา โดยแสดงเป็นอัตราส่วนหรือเปอร์เซ็นต์ และให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลกำไรจากความพยายามทางการตลาด สูตรสำหรับ ROAS คือ:
ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้จ่าย 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับแคมเปญโฆษณาและสร้างรายได้ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ROAS ของคุณก็จะเป็น 5:1 หรือ 500% ซึ่งหมายความว่าทุกๆ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่คุณใช้ไปกับการโฆษณา คุณจะได้รับผลตอบแทน 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ
วิธีคำนวณ ROAS
ROAS คำนวณได้ง่าย ๆ โดยใช้สูตร:
ROAS = (ยอดขายจากการโฆษณา) / (ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา)
ตัวอย่าง:
สมมติว่าคุณลงทุนกับโฆษณา Facebook ไป 10,000 บาท และได้ยอดขายจากโฆษณา 30,000 บาท
ROAS ของแคมเปญนี้จะเท่ากับ 30,000 / 10,000 = 3
หมายเหตุ: ROAS จะแสดงเป็นตัวเลขทศนิยมหรือเปอร์เซ็นต์ก็ได้ ยิ่งค่า ROAS สูงเท่าไหร่ ก็แสดงว่าแคมเปญนั้นให้ผลตอบแทนที่ดีเท่านั้น
เหตุใด ROAS จึงสำคัญ?
ROAS เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญเนื่องจากแสดงให้เห็นว่าแคมเปญการตลาดของคุณช่วยสร้างรายได้ตามที่คาดหวังหรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ:
ประเมินประสิทธิภาพ : ROAS เน้นย้ำว่าแคมเปญหรือช่องทางใดมีประสิทธิผลสูงสุด
เพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรงบประมาณ : นักการตลาดสามารถจัดสรรงบประมาณใหม่ให้กับแคมเปญที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้โดยการเปรียบเทียบ ROAS ในแคมเปญต่างๆ
วัดผลกำไร : ROAS ช่วยให้เข้าใจผลกำไรได้อย่างชัดเจน ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ พิจารณาได้ว่าความพยายามในการโฆษณานั้นคุ้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่
จะปรับปรุง ROAS ได้อย่างไร?
การปรับปรุง ROAS หมายความว่าจะเพิ่มรายได้ในขณะที่ลดค่าใช้จ่ายโฆษณาให้เหลือน้อยที่สุด ต่อไปนี้คือกลยุทธ์บางประการที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว:
กำหนดเป้าหมายผู้ชมที่ถูกต้อง : ใช้ตัวเลือกการกำหนดเป้าหมายที่แม่นยำเพื่อเข้าถึงผู้ใช้ที่มีแนวโน้มที่จะแปลงมากกว่า
ปรับแต่งโฆษณาของคุณ : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโฆษณาของคุณมีความเกี่ยวข้องและดึงดูดความสนใจของผู้ชมของคุณ ซึ่งจะส่งผลให้มีอัตราการคลิกผ่านและการแปลงที่สูงขึ้น
เพิ่มประสิทธิภาพหน้า Landing Page : หน้า Landing Page ที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างดีจะช่วยเพิ่มการแปลงและเพิ่มผลตอบแทนจากการใช้จ่ายโฆษณาของคุณให้สูงสุด
ใช้ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล : ตรวจสอบและวิเคราะห์ประสิทธิภาพแคมเปญของคุณอย่างต่อเนื่องเพื่อทำการปรับปรุงอย่างรอบรู้
ROAS เทียบกับ ROI
แม้ว่า ROAS และผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI)จะเป็นตัวชี้วัดทางการเงินที่สำคัญ แต่ก็มีความแตกต่างกัน ROAS มุ่งเน้นเฉพาะประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาของคุณ โดยวัดว่าคุณได้รับรายได้จากการใช้จ่ายโฆษณาเท่าใด ในทางกลับกัน ROI จะวัดผลกำไรโดยรวมของการลงทุน โดยคำนึงถึงต้นทุนทั้งหมดนอกเหนือจากการโฆษณาเท่านั้น
ROAS เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญที่ธุรกิจต่างๆ ใช้ในการทำความเข้าใจถึงประสิทธิภาพของความพยายามทางการตลาดออนไลน์ของตน โดยการคำนวณและวิเคราะห์ ROAS บริษัทต่างๆ สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูล ปรับปรุงกลยุทธ์โฆษณา และเพิ่มผลกำไรในที่สุด การตรวจสอบ ROAS อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผู้ทำการตลาดปรับเปลี่ยนแคมเปญของตนได้ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากงบโฆษณา
ในโลกของการตลาดดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเพิ่มประสิทธิภาพ ROAS สามารถนำไปสู่การใช้จ่ายที่ชาญฉลาดและให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น ทำให้เป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับความสำเร็จในระยะยาว