ในยุคดิจิทัลที่ลูกค้าต้องพบกับโฆษณาและข้อเสนอต่างๆ มากมาย โปรโมชั่นทั่วๆ ไปจึงไม่สามารถทำได้อีกต่อไป กุญแจสำคัญในการปิดการขายและสร้างความแตกต่างในตลาดออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูงคือการเสนอโปรโมชั่นที่ตรงกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการปิดการขายด้วยโปรโมชันที่ตรงกลุ่มเป้าหมายในการตลาดออนไลน์ ลองพิจารณากลยุทธ์และไอเดียเหล่านี้ดู
เหตุใดการส่งเสริมการขายแบบกำหนดเป้าหมายจึงได้ผล
โปรโมชั่นที่กำหนดเป้าหมายได้รับการออกแบบโดยอิงตามข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลประชากร พฤติกรรม ความสนใจ และประวัติการซื้อ เมื่อโปรโมชั่นพูดถึงความต้องการหรือความปรารถนาของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยตรง โปรโมชั่นนั้นจะให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวและเกี่ยวข้องมากขึ้น ทำให้มีโอกาสเกิดการแปลงเป็นลูกค้ามากขึ้น
ตัวอย่างเช่น การนำเสนอส่วนลดอุปกรณ์ออกกำลังกายแบบจำกัดเวลาให้กับลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพหรือการรวมผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กไว้ด้วยกันสำหรับพ่อแม่มือใหม่สามารถปรับปรุงผลลัพธ์ของคุณได้อย่างมากเมื่อเทียบกับการลดราคาทั่วร้านทั่วไป
ประโยชน์ของการกำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์
อัตราการแปลงที่สูงขึ้น
ข้อเสนอส่วนบุคคลทำให้ลูกค้ารู้สึกได้รับการเข้าใจ ซึ่งสร้างความไว้วางใจและกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ ซึ่งจะนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้นโดยธรรมชาติ
ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่ได้รับการปรับปรุงจากค่าโฆษณา
แทนที่จะเสียเงินไปกับการแสดงข้อเสนอที่ไม่เกี่ยวข้องให้กับผู้ใช้ที่ไม่สนใจ งบประมาณของคุณจะคุ้มค่ามากขึ้นเมื่อโฆษณาเข้าถึงเฉพาะผู้ซื้อที่มีแนวโน้มมากที่สุดเท่านั้น
ความภักดีของลูกค้าที่แข็งแกร่งมากขึ้น
เมื่อลูกค้าเห็นว่าแบรนด์ของคุณเข้าใจความต้องการของพวกเขา พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะกลับมาอีกและแนะนำคุณให้กับผู้อื่น
วิธีการนำโปรโมชั่นแบบกำหนดเป้าหมายไปใช้
รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล
ใช้เครื่องมือ เช่น Google Analytics, Facebook Pixel หรือระบบ CRM เพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า สถานที่ การตั้งค่า และอื่นๆ
แบ่งกลุ่มผู้ชมของคุณ
แบ่งลูกค้าของคุณออกเป็นกลุ่มย่อยตามลักษณะที่เหมือนกัน ตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ซื้อครั้งแรก ผู้ละทิ้งตะกร้าสินค้า ผู้ซื้อสินค้าบ่อยครั้ง หรือลูกค้าที่มีมูลค่าสูง
Craft Tailored Offers
ออกแบบโปรโมชั่นที่แก้ไขปัญหาเฉพาะจุดหรือเน้นย้ำถึงประโยชน์สำหรับแต่ละกลุ่ม ตัวอย่างเช่น ส่งรหัสส่วนลดให้กับผู้ที่ละทิ้งตะกร้าสินค้าเพื่อดึงดูดพวกเขากลับมา
ใช้ประโยชน์จากช่องทางที่ถูกต้อง
นำเสนอโปรโมชันของคุณไปยังกลุ่มเป้าหมายของคุณมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอีเมล, โฆษณาบน Facebook, Google Display, Instagram Stories หรือแม้แต่ SMS
สร้างความรู้สึกเร่งด่วน
เพิ่มช่วงเวลาจำกัดหรือองค์ประกอบความขาดแคลนให้กับข้อเสนอเพื่อส่งเสริมการตัดสินใจที่รวดเร็วยิ่งขึ้น (เช่น “เหลือเวลาอีกเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น!” หรือ “มีสินค้าในสต๊อกจำนวนจำกัด”)
ตัวอย่างจากโลกแห่งความเป็นจริง
ร้านขายเครื่องสำอางออนไลน์แบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็นผู้ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอาง แทนที่จะเสนอส่วนลด 10% ให้กับทุกคน พวกเขากลับส่งอีเมลส่วนตัวเพื่อลดราคาผลิตภัณฑ์ดูแลผิว 20% สำหรับผู้ที่รักผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และกระเป๋าเครื่องสำอางฟรีสำหรับผู้ซื้อเครื่องสำอาง ผลลัพธ์ก็คือ อัตราการคลิกผ่านเพิ่มขึ้น 35% และอัตราการแปลงเพิ่มขึ้น 50%
ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบันการปรับแต่งให้เหมาะกับลูกค้าถือเป็นพลังสำคัญหากคุณต้องการปิดการขายมากขึ้น อย่าเพียงแค่ตะโกนดังๆ แต่ควรพูดอย่างชาญฉลาด รู้จักกลุ่มเป้าหมาย ปรับแต่งข้อเสนอของคุณ และดูว่าการตลาดออนไลน์ของคุณจะกลายเป็นรายได้จริงหรือไม่