ในโลกการตลาดออนไลน์ที่เต็มไปด้วยพลวัต มีแนวทางสร้างสรรค์ใหม่ 2 แนวทางที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ ได้แก่ Live Commerce และ Entertainmerce กลยุทธ์เหล่านี้ถือเป็นวิธีการที่แตกต่างแต่เชื่อมโยงกันในการดึงดูดผู้บริโภคและกระตุ้นยอดขายในโลกดิจิทัล สองกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งสองกลยุทธ์ต่างมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกัน
ทบาทสำคัญในการตลาดดิจิทัลของยุคนี้
Live Commerce มุ่งเน้นไปที่การ ขายสินค้าผ่านการถ่ายทอดสด บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น Facebook, Instagram, TikTok เป็นต้น ผู้ขายสามารถนำเสนอสินค้า สาธิตการใช้งาน ตอบคำถาม และสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ชมแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อและสร้างยอดขายได้อย่างรวดเร็ว
Entertainmerce มุ่งเน้นไปที่การ ผสมผสานความบันเทิงเข้ากับการขายสินค้า ผ่านการถ่ายทอดสด ผู้ขายจะสร้างเนื้อหาที่สนุกสนาน ดึงดูดความสนใจ และกระตุ้นให้ผู้ชมอยากรู้เกี่ยวกับสินค้า โดยใช้กลยุทธ์ต่างๆ เช่น การเล่นเกม การแสดง การร้องเพลง การเล่าเรื่องราว ฯลฯ ซึ่งช่วยสร้างการจดจำแบรนด์และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
จุดเด่นของ Live Commerce:
กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ: ผู้ชมสามารถเห็นสินค้าจริง สาธิตการใช้งาน และตอบคำถามได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ตัดสินใจซื้อได้รวดเร็ว
สร้างยอดขาย: Live Commerce ช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง และกระตุ้นให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
สร้างการมีส่วนร่วม: ผู้ชมสามารถโต้ตอบกับผู้ขายแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยสร้างการมีส่วนร่วมและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
Live Commerce: เชื่อมโยงการมีส่วนร่วมแบบเรียลไทม์กับการช้อปปิ้ง
Live Commerce ใช้ประโยชน์จากการสตรีมวิดีโอแบบเรียลไทม์เพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์หรือบริการ โดยเน้นที่การโต้ตอบโดยตรงระหว่างผู้ขายและผู้บริโภค ผ่านการถ่ายทอดสด แบรนด์ต่างๆ สามารถสาธิตคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ ตอบคำถามได้ทันที และสร้างความรู้สึกเร่งด่วนผ่านข้อเสนอแบบจำกัดเวลาหรือการขายแบบแฟลช วิธีนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความโปร่งใสเท่านั้น แต่ยังสร้างความไว้วางใจด้วยการให้ผู้บริโภคได้เห็นคุณภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์แบบเรียลไทม์อีกด้วย
Entertainmerce: ยกระดับการมีส่วนร่วมผ่านความบันเทิง
ในทางกลับกัน Entertainmerce ผสมผสานองค์ประกอบของความบันเทิงเข้ากับประสบการณ์การช้อปปิ้ง กลยุทธ์นี้ก้าวข้ามการนำเสนอผลิตภัณฑ์แบบเดิมๆ ด้วยการผสานการเล่าเรื่อง เกมมิฟิเคชัน หรือการรับรองจากคนดังเข้ากับกระบวนการช้อปปิ้ง ด้วยการสร้างเรื่องราวที่น่าดึงดูดใจหรือเกมแบบโต้ตอบ แบรนด์ต่างๆ สามารถดึงดูดผู้ชมและส่งเสริมการเชื่อมโยงทางอารมณ์ วิธีนี้มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในการดึงดูดกลุ่มประชากรที่อายุน้อยซึ่งให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่ดื่มด่ำและสนุกสนาน
ความแตกต่างที่สำคัญและการทำงานร่วมกัน
จุดเน้นด้านการมีส่วนร่วม : Live Commerce ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมแบบโต้ตอบผ่านการสื่อสารโดยตรง ในขณะที่ Entertainmerce มุ่งเน้นไปที่การมีส่วนร่วมทางอารมณ์ผ่านองค์ประกอบความบันเทิง
การดึงดูดใจผู้ชม : Live Commerce ดึงดูดผู้บริโภคที่แสวงหาความถูกต้องแท้จริงและการโต้ตอบแบบเรียลไทม์ ในขณะที่ Entertainmerce ดึงดูดผู้ที่มองหาความบันเทิงและการมีส่วนร่วมที่มากกว่าคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
การแปลงยอดขาย : ทั้งสองกลยุทธ์มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนการมีส่วนร่วมเป็นยอดขาย โดยที่ Live Commerce ใช้ประโยชน์จากการโต้ตอบทันที และ Entertainmerce ที่ใช้การเชื่อมโยงทางอารมณ์เพื่อขับเคลื่อนการตัดสินใจซื้อ
การบูรณาการกลยุทธ์เพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุด
แม้ว่า Live Commerce และ Entertainmerce จะมีแนวทางที่แตกต่างกัน แต่ผู้ทำการตลาดออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จมักจะผสานรวมองค์ประกอบของทั้งสองกลยุทธ์เข้าด้วยกันเพื่อสร้างแคมเปญที่ครอบคลุม ตัวอย่างเช่น การรวมการสาธิตสดเข้ากับเรื่องราวที่น่าสนใจหรือการใช้เกมมิฟิเคชันระหว่างเซสชันสดสามารถช่วยเพิ่มอัตราการมีส่วนร่วมและการรักษาลูกค้าได้ ด้วยการเข้าใจจุดแข็งเฉพาะตัวของแต่ละแนวทาง แบรนด์ต่างๆ สามารถสร้างประสบการณ์ออนไลน์ที่น่าดึงดูดใจซึ่งสะท้อนถึงความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายและเพิ่มศักยภาพการขายให้สูงสุด
การเติบโตของ Live Commerce และ Entertainmerce สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งการโต้ตอบแบบเรียลไทม์และความบันเทิงมาบรรจบกันเพื่อกำหนดการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคใหม่และขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ การนำกลยุทธ์ที่สร้างสรรค์เหล่านี้มาใช้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มการมองเห็นแบรนด์เท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างการเชื่อมต่อที่ยั่งยืนกับผู้บริโภคที่เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลในปัจจุบันอีกด้วย