แนวทางการตลาดออนไลน์ที่สร้างสรรค์ซึ่งยกระดับการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลให้สูงขึ้น โดยพัฒนาขึ้นเพื่อใช้เป็นทางเลือกแทนคุกกี้ของบุคคลที่สาม ด้วยความต้องการความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้นและกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น เทคโนโลยีใหม่ที่ Google พัฒนาขึ้นเพื่อแทนที่การใช้คุกกี้บุคคลที่สามในการติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้งานบนอินเทอร์เน็ต
ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มที่เน้นความเป็นส่วนตัวของข้อมูลมากขึ้น Federated Learning of Cohorts (FLoC) เป็นแนวทางการตลาดออนไลน์ที่สร้างสรรค์ซึ่งยกระดับการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลให้สูงขึ้น โดยพัฒนาขึ้นเพื่อใช้เป็นทางเลือกแทนคุกกี้ของบุคคลที่สาม ด้วยความต้องการความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้นและกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น FLoC จึงตั้งเป้าที่จะสร้างสมดุลระหว่างการโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายกับความเป็นส่วนตัวโดยจัดกลุ่มผู้ใช้ตามความสนใจร่วมกันโดยไม่กระทบต่อตัวตนของแต่ละบุคคล ต่อไปนี้คือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานของ FLoC และผลกระทบต่อการตลาดออนไลน์
ทำไมต้องใช้ FLoC?
ความเป็นส่วนตัว: FLoC ไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง แต่จะจัดกลุ่มผู้ใช้งานที่มีความสนใจคล้ายกันเข้าด้วยกันเป็นกลุ่ม (Cohorts) ทำให้ยากที่จะระบุตัวตนของแต่ละบุคคลได้
โฆษณาที่ตรงเป้าหมาย: แม้จะไม่สามารถระบุตัวตนผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ แต่ FLoC ก็ยังสามารถนำเสนอโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของนโยบายความเป็นส่วนตัว: การใช้คุกกี้บุคคลที่สามกำลังถูกจำกัดมากขึ้นเรื่อยๆ FLoC จึงเป็นทางเลือกที่สอดคล้องกับทิศทางนี้
FLoC ทำงานอย่างไร?
การจัดกลุ่ม: เบราว์เซอร์จะจัดกลุ่มผู้ใช้งานตามพฤติกรรมการท่องเว็บ โดยไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
การสร้าง Cohort: กลุ่มผู้ใช้งานที่มีพฤติกรรมคล้ายกันจะถูกจัดเข้าอยู่ใน Cohort เดียวกัน
การนำเสนอโฆษณา: เมื่อผู้ใช้งานเข้าชมเว็บไซต์ ระบบจะนำเสนอโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของ Cohort ที่ผู้ใช้งานนั้นสังกัดอยู่
FLoC คืออะไร?
Federated Learning of Cohorts เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาโดย Google ซึ่งใช้การเรียนรู้ของเครื่องจักรในการสร้างกลุ่มผู้ใช้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนหรือ “กลุ่ม” โดยอิงตามนิสัยการท่องเว็บ แทนที่จะติดตามผู้ใช้แต่ละคน FLoC จะจัดกลุ่มผู้ใช้ที่มีความสนใจคล้ายคลึงกันเป็นกลุ่ม จากนั้นจึงใช้กลุ่มดังกล่าวเพื่อแสดงโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอยู่ที่ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ซึ่งจะไม่มีการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้แต่ละราย และกลุ่มได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้โฆษณาระบุบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ประโยชน์ของ FLoC สำหรับการตลาดออนไลน์
ความเป็นส่วนตัวที่ได้รับการปรับปรุง : ผู้ใช้ไม่ถูกติดตามเป็นรายบุคคลอีกต่อไปทั่วทั้งเว็บ โดยตอบสนองต่อข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและสอดคล้องกับกฎระเบียบการคุ้มครองข้อมูลทั่วโลก
ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น : FLoC ลดการติดตามที่รบกวนให้เหลือน้อยที่สุด มอบประสบการณ์การท่องเว็บที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นและรบกวนน้อยลง
การกำหนดเป้าหมายโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ : นักการตลาดยังสามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีศักยภาพได้ผ่านกลุ่มลูกค้าที่ตรงกับความสนใจของพวกเขา โดยรักษาสมดุลระหว่างการตลาดแบบเฉพาะบุคคลและการปกป้องข้อมูล
ความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นแม้ว่า FLoC จะมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจน แต่ก็ยังมีข้อท้าทายอยู่บ้าง:
ข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัว : แม้ว่าจะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าคุกกี้ แต่บางคนก็โต้แย้งว่าการติดตามตามกลุ่มของ FLoC ยังคงมีความเสี่ยงในการระบุตัวตนได้
การปรับกลยุทธ์การตลาด : ทีมการตลาดที่คุ้นเคยกับกลยุทธ์ที่ใช้คุกกี้อาจต้องปรับเปลี่ยนการกำหนดเป้าหมายตามกลุ่มและวัดประสิทธิภาพแตกต่างกันออกไป
ความเข้ากันได้ของเบราว์เซอร์ : เบราว์เซอร์ไม่รองรับ FLoC ทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าขอบเขตและประสิทธิภาพอาจมีจำกัด ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้
FLoC ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในแวดวงการโฆษณาออนไลน์ โดยนำเสนอแนวทางที่สมดุลในการรักษาความเป็นส่วนตัวและการปรับแต่งส่วนบุคคล FLoC ถือเป็นก้าวใหม่ด้านการตลาดออนไลน์ที่ช่วยให้ผู้ทำการตลาดสามารถปรับตัวให้เข้ากับมาตรฐานความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไปในขณะที่ยังคงความสามารถในการกำหนดเป้าหมายโฆษณาที่มีประสิทธิภาพได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ยังคงอยู่ในระหว่างการพัฒนา จึงอาจจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประโยชน์สูงสุดและแก้ไขข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัวที่เกิดขึ้น สำหรับธุรกิจต่างๆ การนำกลยุทธ์ที่เข้ากันได้กับ FLoC มาใช้ถือเป็นแนวทางที่มองไปข้างหน้าเพื่อให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดและมีประสิทธิภาพในโลกของการโฆษณาดิจิทัล