คนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ซึ่งเกิดระหว่างปี 1946 ถึง 1964 เป็นกลุ่มประชากรที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากในภูมิทัศน์ดิจิทัลในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์มักจะเชื่อมโยงกับช่องทางการตลาดแบบดั้งเดิม แต่พวกเขาก็มีส่วนร่วมกับเนื้อหาออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พวกเขาเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีคุณค่าสำหรับธุรกิจ วิธีที่มีประสิทธิผลที่สุดวิธีหนึ่งในการเชื่อมต่อกับคนรุ่นนี้คือเนื้อหาวิดีโอที่เน้นการเล่าเรื่องและประสบการณ์ส่วนตัว
ก่อนเริ่มสร้างคอนเทนต์วิดีโอ สิ่งสำคัญคือการ
ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง Baby Boomer มักให้ความสำคัญกับ:
เรื่องราวและประสบการณ์: ชอบเรื่องราวที่เป็นจริง มีความหมาย และสะท้อนชีวิตประจำวัน
ความน่าเชื่อถือ: ให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาของข้อมูล และความน่าเชื่อถือของแบรนด์
คุณภาพ: ชอบสิ่งของที่มีคุณภาพดี และสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตประจำวัน
เหตุใดจึงต้องเน้นที่เรื่องราวและประสบการณ์?
สำหรับกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ เนื้อหาที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และเรื่องราวในชีวิตจริงนั้นมีความหมายอย่างยิ่ง คนรุ่นนี้ให้ความสำคัญกับความสมจริงและเรื่องราวที่มีความหมายมากกว่าโฆษณาที่ฉูดฉาดหรือข้อความที่เน้นที่ผลิตภัณฑ์ เนื้อหาวิดีโอที่นำเสนอการเดินทางส่วนตัว บทเรียนชีวิต หรือประสบการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงสามารถสร้างความผูกพันทางอารมณ์ที่แข็งแกร่ง ทำให้มีแนวโน้มที่จะดึงดูดความสนใจและความไว้วางใจจากพวกเขาได้มากขึ้น
การสร้างเนื้อหาวิดีโอที่น่าสนใจสำหรับกลุ่ม Baby Boomers
เน้นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกัน
คนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ชื่นชอบเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ชีวิตของตนเอง เนื้อหาที่สะท้อนถึงค่านิยมของครอบครัว การเติบโตส่วนบุคคล และการเอาชนะความท้าทายอาจทรงพลังเป็นพิเศษ การเน้นย้ำถึงคำรับรองของลูกค้า เรื่องราวความสำเร็จ หรือเรื่องเล่าของรุ่นต่อรุ่นสามารถสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ ทำให้วิดีโอดูเป็นส่วนตัวและเกี่ยวข้องกัน
เน้นที่ความเรียบง่ายและความชัดเจน
ในขณะที่กลุ่มเบบี้บูมเมอร์เริ่มมีความรู้ด้านเทคโนโลยีมากขึ้น ความเรียบง่ายและความชัดเจนก็เป็นสิ่งสำคัญ พยายามให้วิดีโอมีความตรงไปตรงมา มีข้อความที่ชัดเจน น้ำเสียงที่เป็นมิตร และภาพที่เข้าใจง่าย หลีกเลี่ยงศัพท์เฉพาะที่ซับซ้อนเกินไปหรือการตัดต่อที่รวดเร็วซึ่งอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกแปลกแยก เลือกใช้รูปแบบการนำเสนอที่ใจเย็นและอบอุ่นที่เข้าถึงได้แทน
การใช้ภาพจากเหตุการณ์ในชีวิตจริง
วิดีโอที่เน้นถึงประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน เช่น การรวมตัวของครอบครัว การเดินทาง หรืองานอดิเรก ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง ภาพเหล่านี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดความสนใจของคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้พวกเขาจินตนาการถึงตัวเองในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันได้อีกด้วย การเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในชีวิตจริงช่วยสร้างความไว้วางใจและทำให้เนื้อหาดูจริงใจมากขึ้น
เน้นที่คุณค่าและประโยชน์ใช้สอย
กลุ่มเบบี้บูมเมอร์เป็นผู้บริโภคที่เน้นประโยชน์ใช้สอยและเน้นที่คุณค่า เมื่อสร้างเนื้อหาวิดีโอ ให้เน้นที่วิธีที่ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณสามารถปรับปรุงชีวิตของพวกเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอโซลูชันด้านสุขภาพ คำแนะนำทางการเงิน หรือเคล็ดลับสำหรับการพักผ่อนและการเดินทาง ให้แน่ใจว่าเนื้อหานั้นมีคุณค่าที่แท้จริง การเน้นย้ำถึงวิธีที่ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหรือปรับปรุงชีวิตประจำวันสามารถสะท้อนถึงกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ได้ดี
ผสมผสานการเล่าเรื่องเข้ากับโฆษณา
แม้แต่ในโฆษณา การเล่าเรื่องก็สามารถสร้างผลกระทบได้อย่างมาก เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับตัวละครที่เข้าถึงได้ซึ่งเผชิญกับความท้าทายและใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณเพื่อเอาชนะความท้าทายนั้นสามารถดึงดูดใจคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ได้ แนวทางนี้เน้นที่การเล่าเรื่องมากกว่าการขายแบบกดดัน โดยสอดคล้องกับความชอบของพวกเขาสำหรับเนื้อหาที่รู้สึกจริงใจมากกว่า
ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มที่พวกเขาใช้
แม้ว่ากลุ่มเบบี้บูมเมอร์อาจไม่ได้ใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ๆ มากเท่ากับกลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่หลายคนก็ยังคงใช้งาน Facebook, YouTube และแม้แต่อีเมลอยู่ ปรับแต่งเนื้อหาวิดีโอของคุณให้เหมาะกับแพลตฟอร์มเหล่านี้ โดยปรับให้เหมาะสมเพื่อให้รับชมและแชร์ได้ง่าย คำนึงถึงความยาวของวิดีโอ เนื่องจากวิดีโอที่สั้นกว่า (1-3 นาที) มักจะมีประสิทธิภาพดีกว่า
หากต้องการดึงดูดคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ให้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการตลาดออนไลน์ จำเป็นต้องสร้างเนื้อหาวิดีโอที่เน้นการเล่าเรื่องและประสบการณ์ส่วนตัว โดยเน้นที่เรื่องราวที่เกี่ยวข้องและเป็นจริง นำเสนอข้อมูลที่ชัดเจนและมีคุณค่า และใช้ภาพที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ของพวกเขา ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับกลุ่มประชากรนี้ ในขณะที่คนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ยังคงปรับตัวเข้ากับโลกดิจิทัล การสร้างเนื้อหาที่สะท้อนถึงค่านิยมและความสนใจของพวกเขาจะช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมและความภักดี